คนเล็กหมัดเทวดา ภาพยนตร์แอ็กชัน-คอมเมดี้

คนเล็กหมัดเทวดา

คนเล็กหมัดเทวดา ภาพยนตร์แอ็กชัน-คอมเมดี้ เรื่องคนเล็กหผูกเทพฉายหนแรกในตอนปี 2004 กับเรื่องราวของ “สิง” เพศชายไม่ได้การคนหนึ่งที่โดนหลอกขายหนังสือฝึกฝนพลังภายในราคา 10 ดอลลาร์จากชายไม่คุ้นเคย เลยทำให้เขาแน่ใจว่าตนเองเป็นเลิศความสามารถในขณะที่เป็นเพียงแค่ขโมยกระจอกงอกง่อย กระทั่งท้ายที่สุดเขาได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มขวานซิ่งซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอยู่จริงในหน้าประวัติศาสตร์เซี่ยงไฮ้ เรื่องราวของหนังก็เลยเดินเรื่องไปพร้อมด้วยสิงที่เบาๆปรับปรุงความสามารถการต่อสู้

เป็นเวลายาวนานกว่า 15 ปี ที่ผู้คนยังคงเผ้าคอยภาคต่อของหนังหัวข้อนี้ แต่ว่าก็ยังไม่มีวี่แววจะสร้างภาค 2 สักครั้ง กระทั่งบางบุคคลถึงกับล้อเลียนว่าหนังทิ้งระยะนานกระทั่งดารานำชายของเรื่องอย่างโจว สิง ฉือ ก็ไม่อาจจะต้านทานเวลา มองเห็นได้จากผมสีดำที่แปลงเป็นผมขาวอีกทั้งหัวไปและจากนั้นก็ยังไม่มีภาคต่อสักครั้ง

สิง อันธพาลหางแถว ที่มีเป้าหมายที่ต้องการจะเข้ามาเป็นสมาชิกกลุ่มขวาสิง กลุ่มอันธพาลที่ยิ่งใหญ่ขับฟ้า แม้กระนั้นเนื่องจากว่าไม่มีความสามารถก็เลยจะต้องปลอมตัว แล้วก็อ้างชื่อกลุ่มไปทำสิ่งต่างๆจนตราบเท่าเขาได้หลงเข้าไปซอยคอกหมู ที่เต็มไปด้วยจอมยุทธ์จากทั่วยุทธโลกที่มารวมตัวกัน เลยทำให้เขาจำต้องมาเปลี่ยนแปลงแนวความคิดเสียใหม่ โดยการร่วมกับผู้ที่โน่น และก็หันมาเป็นคู่แข่งกับกลุ่มขวานซิ่ง เพื่อปกป้องรักษาผู้คนแทน

หนังประเด็นนี้เหมาะสมกับคนไหนกัน สำหรับ คนเล็กหมัดเทวดา Kung Fu Hustle

คนเล็กหมัดเทวดา เป็นหนังที่ดีเลิศเป็นอย่างมากสำหรับที่เป็นคนชอบดูหนังจีนกังฟู หรือภาพยนตร์จีนพลังภายในมาตั้งแต่ในวัยเด็ก หรือเติบโตมาพร้อมกับมัน เนื่องจากมีหลายๆอย่างที่มันกล่าวถึงมาใช้ให้เชิญนึกถึงมากมายๆกับขณะพวกนั้น ประกอบกับฉากแอคชั่นสุดมันจากหยวนวูปิง รวมทั้งความขำขันในแบบของ โจวชิงฉือ กระทั่งทำให้มันเปลี่ยนเป็นหนังกังฟูสุดเดือดชั้นเลิศในสมัยข้างหลังอีกหัวข้อที่ควรจะมองกันอย่างยิ่งจริงๆ คนไหนกันที่ถูกใจหนังแอคชั่น คอเมดี้ สไตล์โจวชิงฉือ อย่าง Shaolin Soccer หรือ Journey to the West (ไซอิ๋วฉบับใหม่) แล้ว จะต้องตกหลุมรักหนังหัวข้อนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

ภาพยนตร์ที่วัวรตฮา ถ้าหากคุณกำลังรู้สึกเครียด หรือกำลังเบื่อๆภาพยนตร์หัวข้อนี้จะก่อให้คุณกลับมากระปรี้กระเปร่าอีกที เพราะเหตุว่ามันเป็นภาพยนตร์ต่อสู้ที่แทรกความฮาเอาไว้มหาศาล แต่ว่าถึงมันจะฮามันก็มีฉากที่ทำให้พวกเราไม่ต้องการให้มีเช่นเดียวกัน

เรื่องราวย่อ เกิดเรื่องราวของเซี่ยงไฮ้ตอนสมัย 1930 ซึ่งเป็นตอนที่มีกลุ่มอันธพาลขวานซิ่งครองบ้านครองเมือง พวกเขาได้เข้าไปรบกวนในบริเวณที่เรียกว่า “ซอยคอกหมู” แต่ว่าไม่เป็นผลสำเร็จด้วยเหตุว่ามีจอมยุทธหลบซ่อนอยู่ในซอยนี้ จากนั้น สิง (โจว สิงฉือ) มิจฉาชีพไม่มีความสามารถที่ได้เข้ามารบกวนยังซอยหมู

แม้กระนั้นไม่เป็นผลสำเร็จเนื่องจากว่าเขารู้สึกว่าเขามีวิทยายุทธเพราะเขาได้ซื้อหนังสือพลังภายในจากชายไม่คุ้นหน้าคนหนึ่ง ที่บอกเขาว่าเขาคงจะฝึกฝนวิชาในหนังสือนี้ได้โดยเขาซื้อในราคา 10 ดอลลาร์ ต่อจากนั้นเขาได้ฝึกซ้อมบ่อยมา และก็ได้เข้าไปช่วยเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นใบ้ (หวง เซิงอี้) จากพวกเด็กนรก แม้กระนั้นเขากลับถูกพวกนั้นประทุษร้ายกระทั่งบอบช้ำ จากนั้น เขาได้เข้าไปเป็นพวกกลุ่มขวานซิ่งสุดท้าย แม้กระนั้นกำเนิดคิดคดทรยศกันขึ้น สิตระหนี่ลับถูกหัวหน้ากลุ่มคนใหม่ซึ่งฆ่าหัวหน้ากลุ่มคนเก่าตายโจมตีจนกระทั่งเกือบตาย แต่ว่าโชคดีได้ผัวเมียผู้ครอบครองหอช่วยรักษา รวมทั้งสุดท้ายเขาก็สามารถเอาชนะหัวหน้ากลุ่มขวานซิ่งได้เสร็จ

ภายหลังจากการบรรลุผลในระดับอินเตอร์จากเรื่องก่อนหน้าอย่าง Shaolin Soccer

หรือ นักฟุตบอลเสี้ยวลิ้มยี่ ก็พาให้เขามาสู่หนังที่ใหญ่ขึ้นในระดับอินเตอร์อย่าง Kung Fu Hustle ที่ได้ค่ายฝรั่งมาจำหน่ายให้ แถมครั้งนี้มาแบบเน้นย้ำเป็นหนังกังฟูแท้ๆแล้วก็ทำความเคารพหนังกังฟูเก่าๆอย่างสุดหัวใจ เพราะเหตุว่าในหลายๆฉาก ซึ่งถ้าเกิดผู้ใดกันแน่เป็นหนังสายกังฟูหรือภาพยนตร์จีนพลังภายในมาก่อน ก็คงจะชินตากันอย่างแน่แท้ ร่วมระลึกเรื่องในอดีต แล้วก็ฟินไปกับฉากพวกนี้อีกด้วย

สำหรับในส่วนของฉากแอคชั่นต่างๆก็ประดิษฐ์ออกมาอย่างดีเยี่ยม ผ่านคนวางแบบแอคชั่นมีชื่ออย่าง หยวนวูปิง ที่เคยดีไซน์การต่อสู้ให้กับภาพยนตร์จีนสายกังฟูมาเยอะมาก รวมทั้งหนังดังอย่าง The Matrix ด้วย มันเลยออกมาเป็นการผสมระหว่างวรยุทธ์ในหนังพลังภายใน กับการอัดกันแบบกลุ่มอันธพาลยุคสมัยใหม่ ที่ทำออกมาได้อย่างพอดี ประกอบกับนักแสดงต่างๆที่ทำออกมาได้มีชีวิตชีวา และก็เป็นคาแรคเตอร์ที่น่าจำอย่างยิ่ง ซึ่งเมื่อมันเข้ามาสู่สมัยที่กราฟฟิกพอเพียงโอเคด้วยแล้ว เลยทำให้ฉากกลุ่มนี้ออกมามองเว่อร์วังวิจิตรตระการตาดีแบบสุดๆ

ภายหลังที่กระแสข่าวลือเกี่ยวกับภาคต่อเวียนมาแล้วจากไป สุดท้ายดารานำชายของเรื่องที่ผันตัวไปอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังในฐานะโปรดิวเซอร์และก็ผู้กำกับ ก็ได้กล่าวถึงหนังภาคต่อของคนเล็กหผูกเทพเทวดาแล้วว่า ภาคต่อที่คนไม่ใช่น้อยคอยจะถูกผลิตออกมาอย่างไม่ต้องสงสัย โดย โจว สิง ฉือ ได้ตอบปัญหาแฟนๆคนหนึ่งว่าเขาคิดแผนจะสร้างภาคต่อ แม้กระนั้นจะไม่ใช่คนเล็กหผูกทวยเทพ 2 พลาดท่าเดียว ด้วยเหตุว่าถ่ายทำนอกจีนและก็จะดำเนินเรื่องในช่วงตอนนี้ที่ทิ้งห่างจากภาคแรกไป 15 ปี แต่ว่ายังมีกลิ่นของหนังภาคแรกอยู่

การก้าวไปสู่เบื้องหน้าเบื้องหลังอาจจะทำให้โจว สิง ฉือ ที่เดี๋ยวนี้อายุ 52 ปี เบื่อจะกลับไปยืนอยู่หน้ากล้องถ่ายภาพ เขารายงานในงานเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เขาเป็นผู้กำกับว่า มีหนังหลายเรื่องที่ต้องการที่จะให้ไปร่วมแสดง แม้กระนั้นก็จะต้องไม่ยอมรับไปทั้งผองด้วยเหตุผลที่ว่าในตอนนี้การแสดงหนังมิได้จูงใจเขาอีกต่อไปแล้ว แล้วก็เขาจะรับเล่นหนังก็เมื่อต้องการเล่นแค่นั้น และก็เงินไม่ใช่สาเหตุที่ดึงเขาให้กลับไปได้.

ในโลกที่เต็มไปด้วยเรื่องราวสำหรับเด็กๆ และในที่สุดท้ายที่สุด มีเรื่องราวที่มีความพิเศษและเต็มไปด้วยความเหมือนกัน – นั่นคือ “คนเล็กหมัดเทวดา” ซึ่งเป็นเรื่องราวที่น่ารักและสร้างสรรค์ที่พาเราไปสู่โลกของความฝันและความสามารถที่ไม่มีที่สิ้นสุด.

เรื่องราวนี้เริ่มต้นที่หมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ติดกับป่ามหัศจรรย์ ในหมู่บ้านนี้มีเด็กหนุ่มสุดฉลาดที่ชื่อว่า “เล็ก” ที่มีใจกว้างและจินตนาการที่สุด โดยเฉพาะเมื่อเขาเริ่มฝันถึงโลกของเทวดาและวงศ์พระราชา.

มีครั้งหนึ่งในวันหนึ่ง ที่เล็กได้พบกับเทวดาน้อยจากป่า ที่มีชื่อว่า “เทียร่า” ซึ่งมีปีกที่มีลวดลายสวยงามและความอ่อนโยนที่ทำให้เธอดูเหมือนเคยได้ยินมาก่อน. เทียร่าเล่าเรื่องราวของโลกเทวดาที่สวยงามและที่นี้มีอุปสรรคที่ต้องเผชิญหน้าทำให้เล็กตัดสินใจที่จะช่วยเทียร่าในการแก้ไขปัญหา.

เล็กตั้งใจที่จะเป็นเหมือนเทวดา เขาเริ่มทดลองใช้ความจินตนาการของเขาและทักษะที่เขามีอยู่ เขาพบว่าเราสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ด้วยความพยายามและความเชื่อมั่นในตนเอง. แม้ว่าเขาจะเป็นคนเล็ก แต่เขามีพลังที่มากมายที่สามารถทำให้โลกเปลี่ยนไป.

เรื่องราวของ “คนเล็กหมัดเทวดา” นี้เป็นแรงบันดาลใจที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับทุกคนที่อยากที่จะตามหาความฝันของตนเองและพบว่าความพยายามและความอดทนสามารถทำให้เราเป็นเหมือนเทวดาในโลกที่เต็มไปด้วยอัศจรรย์.

โจว ซิงฉือ หรือ Stephen Chow ไปสู่แวดวงแสดงในปี 1988

คนเล็กหมัดเทวดา

เริ่มด้วยการเป็นผู้แสดงสมทบในละครโทรทัศน์ คนเล็กหมัดเทวดา รวมทั้งเบาๆเป็นที่นิยมจนกระทั่งขยับมาเป็นดารานำทั้งยังในละครโทรทัศน์ รวมทั้งภาพยนตร์ กล่าวได้ว่าตอนปี 90’s นี่เป็นยุคทองของ โจว สิงฉือ เพียงแค่ปี 1990 ปีเดียวนั้น มีหนังของเขาออกฉายสูงถึง 11 เรื่อง

แล้วก็ ‘คนเล็กตัดใหญ่’ (The Unmatchable Match) ก็เกิดเรื่องแรกที่บริษัทผลิตภาพยนตร์ในไทยใส่คำว่า “คนเล็ก” เข้าไปในชื่อหนัง รวมทั้งเปลี่ยนเป็นเครื่องหมายประจำตัวของ โจว สิงฉือ ทำให้หลายๆเรื่องต่อจากนี้ต้องมีคำว่า ‘คนเล็ก’ โจว สิงฉือ ขึ้นแท่นผู้แสดงนำชายสุดฮอตโดยตลอด ปี 1991 และก็ปี 1992 ส่งผลงานออกมาปีละ 7 – 8 เรื่อง ซึ่งส่วนมากก็เป็นหนังที่เขาตามติดคู่กับ อู๋ ม่งต๊ะ

การผลิต คนเล็กหผูกทวยเทพเทวดา ได้ผลงานร่วมสร้างขึ้นมาจากเป่ยจิงฟิล์มถ่ายรูปสตูดิโอและก็ประเทศฮ่องกงสตาร์โอเวอร์ซี หลังจากบรรลุผลสำเร็จในรูปภาพยนตร์ นักฟุตบอลเสี้ยวลิ้มยี่ ของ โจว สิงฉือ เขาก็ไดรับการทาบทามในปี คริสต์ศักราช 2002 โดยโคลัมเบียพิกพบร์สฟิล์มถ่ายรูปโปรดักชั่นทวีปเอเชีย ซึ่งได้เสนอที่จะร่วมกับเขาในโครงงาน โจว สิงฉือ เห็นด้วยข้อแนะนำ แล้วก็โครงงานนี้ก็ได้แปลงเป็น คนเล็กหผูกเทพ ท้ายที่สุด สูตรบาคาร่า แทงรอบไหนก็ไม่พลาด โดยแรงบันดาลหัวใจสำคัญของภาพยนตร์ชุดนี้ มาจากภาพยนตร์ศิลป์การต่อสู้ที่ โจว สิงฉือ ได้มองตอนเป็นเด็ก รวมทั้งความต้องการเมื่อเยาว์วัยที่ต้องการจะเป็นนักสู้ป้องกันภัย

ขึ้นชื่อว่าหนังโจวชิงฉือ ก็อาจไม่พลาดกับพาร์ทความคอเมดี้อย่างไม่ต้องสงสัย และก็ยิ่งเมื่อเอามาประกอบกับกลุ่มพากษ์ผู้ส่งเสริม ก็ยิ่งทำเอาหัวเราะเสียงดังฟันกรามค้างได้มากๆทำให้ Kung Fu Hustle ไม่เฉพาะแต่เป็นหนังที่ทำมาเอาสนุก เอาฮา สไตล์โจวชิงฉือเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นมันยังเป็นเหมือนจดหมายรักของเขาไปยังหนังกังฟู รวมทั้งหนังพลังภายในในสมัยรุ่งโรจน์ได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์วิชา วรยุทธ์ นักแสดง เบื้องหลัง หรือแม้กระทั้งเพลงประกอบ ก็ล้วนแต่เอาของที่อยู่ในความจำมาใช้ทั้งหมด

เรื่องราวของเล็กได้รับความพอใจจากเด็กในหมู่บ้าน, แล้วก็ทุกคนเริ่มมีความคิดเห็นว่าความบากบั่นและก็ความจริงจังของเล็กสามารถส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชุมชน. ผลสรุปที่เกิดขึ้นเริ่มทำให้คนทั้งปวงเริ่มเชื่อถือในความรู้ความเข้าใจของตัวเองรวมทั้งเริ่มมีความเห็นว่าทุกคนมีหน้าที่สำหรับในการสร้างโลกที่ดียิ่งขึ้น.

เล็กมิได้เดินทางผู้เดียว, เขาได้รับการช่วยสนับสนุนจากเพื่อนฝูง, ครอบครัว, แล้วก็ชุมชน. ทุกคนมารวมตัวกันเพื่อส่งเสริมเล็กสำหรับการตามติดความฝันของเขา. มีการจัดงานกิจกรรมทางศิลป์, การฝึกฝนความถนัด, แล้วก็การผลิตโครงงานในชุมชน เพื่อสร้างที่พักที่อาศัยที่เต็มไปด้วยความมากมายรวมทั้งความรู้ความเข้าใจของทุกคน.

เรื่องราวนี้สร้างแรงจูงใจให้กับทุกคนสำหรับการต่อสู้กับปัญหา, การพัฒนาความสามารถ, และก็การทำงานด้วยกัน. มันสอนให้พวกเรารู้เรื่องว่าความฝันไม่มีขนาด, รวมทั้งทุกคนมีที่มาและก็สิ่งที่เป็นได้ที่ไม่จบไม่สิ้น.

คนเล็กหมัดเทวดา ก็เลยเกิดเรื่องราวที่เติบโตขึ้นไปพร้อมทั้งทุกคนในชุมชน, ทำให้โลกรู้ดีว่าทุกคนสามารถมีส่วนร่วมสำหรับเพื่อการสร้างโลกที่สมบูรณ์บริบูรณ์แล้วก็เต็มไปด้วยความรักแล้วก็ความรู้ความเข้าใจ.

ภาพยนตร์ชุดนี้ได้รับการตอบกลับโดยรวมเข้าขั้นที่ดีจากนักวิพากษ์วิจารณ์ โดยได้รับคะแนนสูงสุดที่ 90% ที่เว็บคอยตเทนโทมันข้นส์ ซึ่งอิงจาก 185 ข้อคิดเห็น5 ผู้กำกับประเทศฮ่องกงรวมทั้งกาเบรียล หว่อง ซึ่งเป็นนักวิพากษ์วิจารณ์ภาพยนตร์ชมเชยสำหรับความเป็นละครขบขันเสียดสี ตลอดจนเคล็ดลับพิเศษและก็การหวนคนึงถึงการหวนคืนมาของผู้แสดงกังฟูที่ล่ำลาแวดวงไปในตอนสมัยทศวรรษ 1970 และก็โรเจอร์ เบิร์ท ซึ่งเป็นนักวิพากษ์วิจารณ์ภาพยนตร์ได้เอ๋ยถึงภาพยนตร์หัวข้อนี้ว่าดัง เฉินหลง กับ บัสเตอร์ คีตัน เจอ เควนตำหนิน ทาแรนตำหนิโน รวมทั้ง บั๊กส์ บันนี่ ที่เทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ ซึ่งข้อคิดเห็นนี้ได้รับการพิมพ์ลงบนโปสเตอร์ภาพยนตร์ คนเล็กหผูกทวยเทพเทวดา ในสหรัฐฯ

หากว่าตัวหนังจะมีความเป็นเอเซียสูง คนเล็กหมัดเทวดา อีกทั้งเรื่องราวแล้วก็มุกเฮฮาที่ใช้ในหนัง แม้กระนั้นหนังกลับได้รับการยินยอมรับในตลาดสากล หนังได้คะแนนบนเว็บ Rottentomatoes มากถึง 91% จากนักวิพากษ์วิจารณ์ 191 คน โรเจอร์ อีเบิร์ต (Roger Eberts) นักวิพากษ์วิจารณ์โด่งดังที่ทั้งโลกให้การสารภาพ กล่าวว่า “เสมือนจับเอา แจ็กกี้ เฉลียง และก็ บัสเตอร์ คีตัน มาพบกับ เควนทิน ทารันทิโน รวมทั้ง บักส์ บันนี่” ส่วน ใบเสร็จรับเงินล์ เมอร์เรย์ (Bill Murray) ดาวตลกอาวุโส พูดว่า “นี่เป็นภาพยนตร์ตลกที่ไปถึงเป้าหมายมากที่สุดในสมัยใหม่” ส่วน เจมส์ กันน์ (James Gunn) นั้นกล่าวชมเชยไว้อย่างยอดเยี่ยมว่า “นี่เป็นหนังที่สุดยอดที่สุดที่เคยสร้างมากมาย”